วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

ระดับภาษาและการใช้ภาษาที่ถูกต้อง

ระดับภาษาและการใช้ภาษาที่ถูกต้อง


ระดับของภาษา หมายถึง ความลดหลั่นของถ้อยคำและการเรียบเรียงถ้อยคำที่ใช้โดยพิจารณาตาม โอกาส หรือ กาลเทศะ ความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลที่เป็นผู้สื่อสาร และ ตามเนื้อหาที่สื่อสาร
                การศึกษาเรื่องระดับของภาษาเป็นสิ่งสำคัญเพราะทำให้บุคคลแต่ละกลุ่มเข้าใจภาษาของกันและกัน ไม่เกิดปัญหาด้านการสื่อสาร และความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคล รวมทั้งยังทำให้ผู้ศึกษาได้เข้าใจถึงลักษณะเฉพาะและวิวัฒนาการของภาษาไทยอีกด้วย
                การศึกษาเรื่องระดับภาษาอาจพิจารณาได้หลายวิธีตามหลักเกณฑ์ต่างๆ เช่น พิจารณาตามฐานะของบุคคล ตามเนื้อหา และตามกาลเทศะที่สื่อสาร

                ในที่นี้จะกล่าวถึงการพิจารณาระดับภาษา  ตามกาลเทศะ / โอกาส ในการใช้ภาษา เพื่อให้ผู้ใช้ภาษาสามารถเลือกใช้ภาษา ในสถานการณ์ ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม

(๑)     ภาษาแบบเป็นทางการ  ภาษาที่ใช้อย่างเป็นทางการมีลักษณะเป็นพิธีการ ถูกต้องตาม
แบบแผนของภาษาเขียน  แบ่งออกเป็น
                               (๑.๑)  ภาษาระดับพิธีการ เป็นภาษาที่สมบูรณ์แบบ รูปประโยคถูกต้องตามหลัก
ไวยากรณ์ มีความประณีต งดงาม อาจใช้ประโยคที่ซับซ้อนและใช้คำระดับสูง ภาษาระดับนี้จะใช้ในโอกาส สำคัญ ๆ เช่น งาน ราชพิธี วรรณกรรมชั้นสูง เป็นต้น
                               (๑.๒) ภาษาระดับมาตรฐานราชการ หรือ อาจเรียกว่า ภาษาทางการ / ภาษาราชการ เป็นภาษาที่สมบูรณ์แบบ รูปประโยคถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เน้นความชัดเจน ตรงประเด็นเป็นสำคัญ ใช้ในโอกาส สำคัญ ที่เป็นทางการ เช่นหนังสือราชการวิทยานิพนธ์ รายงานทางวิชาการ การกล่าวปราศรัย การกล่าวเปิดงานสำคัญ ๆ เป็นต้น
(๒)  ภาษาแบบไม่เป็นทางการ  ภาษาที่ไม่เคร่งครัดตามแบบแผน มักใช้ในการสื่อสารทั่วไป
ในชีวิตประจำวัน หรือ โอกาสทั่วๆ ไปที่ไม่เป็นทางการ แบ่งเป็น
                (๒.๑) ภาษาระดับกึ่งทางการ  เป็นภาษาที่ยังคงความสุภาพแต่ไม่เคร่งครัดแบบภาษาทางการบางครั้งอาจใช้ภาษาระดับสนทนามาปนอยู่ด้วย มันใช้ในการติดต่อธุรกิจการงาน หรือใช้สื่อสารกับบุคคลที่ไม่คุ้นเคย หรือ มีคุณวุฒิ และ วัยวุฒิสูงกว่า หรือการบรรยาย การประชุมต่างๆ รวมทั้งใช้ในงานเขียนที่ไม่เป็นทางการเพื่อให้งานเขียนนั้นดูไม่เครียดจนเกินไป   เช่น       สารคดี บทวิจารณ์ เกี่ยวกับบันเทิงคดีต่างๆ เป็นต้น
                (๒.๒) ภาษาระดับสนทนา  เป็นภาษาที่ใช้สนทนาโต้ตอบกับบุคคลที่รู้จักในสถานทหรือเวลาที่ไม่เป็นการส่วนตัว หรือสนทนากับบุคคลที่ยังไม่คุ้นเคย รวมทั้งใช้เจรจาซื้อขายทั่วไป และการประชุมที่ไม่เป็นทางการ ภาษาที่ใช้มักมีรูปประโยคง่ายๆ ที่สามารถเข้าใจทันที แต่ยังคงความสุภาพ เช่น ภาษาที่ใช้ในการรายงานข่าวโทรทัศน์ การเจรจาในเชิงธุระทั่วไป เป็นต้น

                (๒.๓) ภาษาระดับกันเองหรือภาษาปาก  เป็นภาษาพูดที่ใช้สนทนากับบุคคลที่สนิทคุ้นเคยมักใช้สถานที่ส่วนตัว หรือ ในโอกาสที่ต้องการความสนุกสนานครื้นเครง หรือ การทะเลาะวิวาท ภาษาที่ใช้เป็นภาษาพูดที่ไม่เคร่งครัด อาจมีคำตัด คำสแลง คำต่ำ คำหยาบปะปน โดยทั่วไปไม่นิยมใช้ในภาษาเขียน ยกเว้นงานเขียนประเภท เช่น เรื่องสั้น นวนิยาย ภาษาข่าวหนังสือพิมพ์ การเขียนบทละคร ฯลฯ

การใช้ภาษาผิดระดับย่อมก่อให้เกิดอุปสรรคในการสื่อสาร ผู้รับสารอาจเห็นว่าผู้ส่งสารไม่รู้จักกาลเทศะขาดความจริงใจ เสแสร้ง  การแบ่งภาษาออกเป็นระดับต่างๆ นั้นมิได้แบ่งกันอย่างเด็ดขาด ภาษาระดับหนึ่งอาจเหลื่อมล้ำกับภาษาอีกระดับหนึ่ง หรือใช้ปะปนกันได้ การพิจารณาระดับภาษาระดับภาษาอาจต้องพิจารณาจากข้อความโดยรวมในการสื่อสารนั้น


ตัวอย่างการใช้ภาษาระดับต่าง ๆ
(๑)          ...ขอพระบรมเดชานุภาพมหึมาแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราช จงคุ้มครองประเทศชาติและประชาชาวไทยให้ผ่านพ้นสรรพอุปัทวพิบัติทั้งปวง อริราชศัตรูภายนอกอย่าล่วงเข้าทำอันตรายได้ ศัตรูหมู่พาล    ภายในให้วอดวายพ่ายแพ้ภัยตัว บันดาลความสุขความมันคงให้บังเกิดทั่วภูมิมณฑล บันดาลความร่มเย็นแก่ อเนกนิกรชนครบคามเขตขอบขัณฑสีมา...                                     
  (ภาวาส บุนนาค, ราชาภิสดุดี. ในวรรณลักษณวิจารณ์เล่ม ๒ หน้า ๑๕๙.)

(๒)  ...   บทละครไทยเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของวรรณกรรมไทยเป็นวรรณกรรมที่ประพันธ์ขึ้นทั้งเพื่ออ่านและเพื่อแสดงรูปแบบที่นิยมกันมาแต่เดิมคือบทละครรำต่อมามีการปรับปรุงละครรำให้ทันสมัยขึ้นตามความนิยมแบบตะวันตกจึงมีรูปแบบใหม่เกิดขึ้น ได้แก่ ละครดึกดำบรรพ์ ละครพันทาง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการรับรูปแบบละครจากตะวันตกมาดัดแปลงให้เข้ากับสังคมไทยและวัฒนธรรมไทย ทำให้การละครไทยพัฒนาขึ้นโดยมีกระบวนการแสดงที่แตกต่างไปจากละครไทยที่มีอยู่มาเป็นละครร้อง ละครพูดและละครสังคม”
(กันยรัตน์ สมิตะพันทุ,  การพัฒนาตัวละครในบทละครพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  ในบทความ วิชาการ ๒๐ ปี ภาควิชาภาษาไทย หน้า ๑๕๘)

(๓) ...   ฉะนั้นในช่วงเรียนอยู่ระดับมัธยม ผู้ที่ขยันมุ่งมั่นจะเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้จะไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบกายทั้งสิ้นยกเว้นสิ่งที่เขาคิดว่าจะสามารถทำให้เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ชีวิตนักเรียนมัธยมจึงมีแต่ติวติวและติว กีฬาฉันไม่เล่น กิจกรรมฉันไม่มีเวลาทำ และยิ่งห้องสมุดฉันไม่ทราบว่าจะเข้าไปทำไมเพราะเวลาทั้งหมดจะต้องใช้ท่องตำราอย่างเดียวแล้วก็มักจะประสบความสำเร็จตามที่คิดเสียด้วย คือ สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้...”
(เปล่งศรี  อิงคนินันท์     ต้องขอให้อาจารย์ช่วย  ก้าวไกล ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๔ หน้า ๒๗)

(๔)   “...จากกรณีที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ  เกจิดังแห่งวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน  อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาได้อาพาธลงอย่างกะทันหัน มีอาการอ่อนเพลียอย่างหนักเนื่องจากต้องตรากตรำทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลและเคาะหัวให้กับบรรดาศิษยานุศิษย์จนไม่มีเวลาพักผ่อนเกิดอาการหน้ามืดจนกระทั่งลูกศิษย์ต้องหามส่งโรงพยาบาลมหาราชนายแพทย์เจ้าของไข้ได้ตรวจร่างกายแล้วแจ้งให้ทราบว่าเป็นไข้หวัด”                                                         (เดลินิวส์ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๙)
(๕) ....   มึงจะไปไหนไอ้มั่นกูสั่งให้ปล่อยมันไว้อย่างนั้นไม่ต้องสนใจกูอยากนั่งดูมันมองมันตายช้าๆเลือดไหลออกจนหมดตัวและหยุดหายใจในที่สุดถึงจะสมกับความแค้นของกู
(วราภา,  นางละคร,   สกุลไทย ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๑๖๒ หน้า ๑๐๗)

(๖) ...   บิ๊กจา เตรียมเดินเครื่องวางงานกีฬายาวจะเสนอเป็นคณะกรรมาธิการวุฒิสภาการกีฬาดันงบหนุนซีเกมส์ เอเชียนเกมส์  กับความเป็นเจ้าเหรียญทองส่วนสมาคมตะกร้อว่าแตกเป็นเสี่ยงให้พิสูจน์กันในตะกร้อคิงส์คัพหนที่ ๑๒ ใครผลงานดีได้พิจารณามาทำทีมชาติ”
(เดลินิวส์ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๙)


ภาษาพูด-ภาษาเขียน

การศึกษาระดับภาษาอาจพิจารณาในด้านรูปแบบของการสื่อสารสามารถแบ่งภาษาเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ๆคือภาษาพูด และภาษาเขียน
(๑)     ภาษาพูด หมายถึง ภาษาที่มักใช้สื่อสารทางวาจาในชีวิตประจำวัน หรืออาจใช้งานเขียนที่
ไม่เป็นทางการ เช่นบทความวิจารณ์ข่าว ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา หรือในวรรณกรรมประเภทต่าง ๆ
* ภาษาพูดสามารถเลือกใช้ถ้อยคำได้หลายระดับขึ้นกับโอกาสที่พูดและฐานะชองบุคคลที่
   สื่อสารด้วยแต่จะไม่เคร่งครัดมากนัก
* ระดับภาษาที่จัดเป็นภาษาพูด ได้แก่ ระดับสนทนา ภาษาระดับกันเอง
(๒)  ภาษาเขียน หมายถึง ภาษาที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน สามารถนำมา
อ้างอิงได้ภาษาเขียนที่ใช้ในงานเอกสารที่เป็นทางการจะใช้ภาษาที่เป็นมาตรฐาน (ภาษาทางการ)ยึดหลักการใช้ภาษาที่ถูกต้อง อ่านเข้าใจง่าย และไม่นำภาษาพูดมาปะปนผู้เขียนควรขัดเกลาถ้อยคำสำนวนให้ถูกต้องชัดเจนและสมบูรณ์
* ระดับภาษาที่จัดเป็นภาษาเขียน ได้แก่ ภาษาระดับพิธีการ ระดับมาตรฐานราชการ
* ภาษาระดับกึ่งทางการ อาจจัดเป็นภาษาเขียนที่ไม่เคร่งครัดนัก หรือจัดเป็นภาษาที่ ค่อนข้างเป็นทางการหรือใช้ในโอกาสสำคัญ


หลักการใช้ภาษาที่ถูกต้อง

ภาษาใช้ในการสื่อสารที่เป็นทางการควรใช้ภาษาเขียนในระดับทางการ โดยต้องหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาพูด และต้องคำนึงถึงความถูกต้องเรื่องความหมาย และแบบแผนการใช้ภาษาทั้งในด้านการใช้คำและประโยค เน้นความถูกต้อง  กระชับ  ชัดเจน  ตรงประเด็น
( ๑ )  การใช้คำ  การใช้คำต้องพิจารณาให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ความหมาย และระดับของคำนั้นๆ
 (๒) การใช้ประโยค   การใช้ประโยชน์ต้องพิจารณาให้ประโยคที่ใช้นั้นถูกต้อง กะทัดรัด ชัดเจน และสละสลวย และลำดับคำในประโยคถูกต้อง


ตัวอย่างการใช้ภาษาที่ไม่ถูกต้อง
๑.คนพาลนั้นถ้าเลี่ยงได้เราควรจะเลี่ยงเสียในกรณีที่เลี่ยงได้
๒. คนยากจนที่ขัดสนเงินทองย่อมต้องทำงานหนัก
๓. คนที่จับเชือกควรจะเป็นคนสาว
๔. เขาไม่ชอบทานข้าวเย็น
๕. ส่วนผสมมีแป้ง มัน น้ำตาล ทราย เกลือสีผสมอาหารและไข่ไก่
๖. เราไปเยี่ยมคนเจ็บด้วยกัน เมื่อไปถึงคนไข้อาการดีขึ้นแล้ว
๗.  เขาถูกมองอย่างดูถูกจากเพื่อนๆ
๘. เขาเข้ามาในห้องพร้อมกับหนังสือ
๙. การเรียนวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารนั้น ต้องเข้าใจหลักพื้นฐานของการสื่อสาร ได้แก่ ทักษะการฟัง ทักษะการพูด  ทักษะการเขียน และทักษะการอ่าน
๑๐. องค์การโทรศัพท์กำลังปรับปรุงการบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
๑๑. ฉันรู้สึกเหงาและเมื่อฉันรู้จักเพื่อนๆมากขึ้นฉันรู้สึกอุ่นใจ
๑๒. เนื่องจากรถของฉันเสียและฉันต้องนั่งรถไฟฟ้ามาทำงาน
๑๓. วัดนี้มีพระภิกษุจำพรรษา ๑๒ องค์
๑๔. สองนักโทษถูกประหารชีวิตเมื่อวานนี้
๑๕. ถ้าเราพลาดไปนิดเดียว เราก็จะเกิดการเสียใจ
๑๖. รถค่อยๆเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว
๑๗. ทุกๆวันฉันต้องไปขึ้นเรือที่ท่าน้ำสี่พระยาและลงที่วังหลัง
๑๘. แม่ค้าหาบเร่ตั้งของขายขัดขวางการจราจร
๑๙. พุทธศาสนาเป็นเครื่องหน่วงเหนี่ยวจิตใจของประชาชน
๒๐. ในห้องนี้มีคนอยู่กันแน่นหนามาก
๒๑.วันนี้ดวงสุริยาขึ้นพ้นขอบฟ้าเวลา o๔.๓๖
๒๒.คุณปู่เจ็บหนักมานานแล้วเราคาดหวังกันว่าท่านคงอยู่ได้อีกไม่นาน
๒๓.เจ้ามองของแก่พระภิกษุ
๒๔.สตรีแต่ละคนนั้นมีท่าทีที่เข้มแข็งและเป็นนักสู้ไม่แพ้ผู้ชาย
๒๕. นักศึกษาส่วนมากมาสายทุกคน
๒๖. สุนัขของผมเขาชอบทานอาหารกระป๋อง
๒๗.วันนี้จะมีการชิงอีก ๒๐ เหรียญทอง ที่ผ่านมาไทยได้มาถึง ๑๘ เหรียญทอง
๒๘. ฉันมีน้องชายอายุอ่อนกว่าฉันคนหนึ่ง
๒๙.แสงอาทิตย์ให้ความอบอุ่นกับเราตลอดเวลา
๓๐. รัฐบาลสร้างอนุสาวรีย์ให้แก่ทหารที่เสียชีวิตในวัดพระศรีมหาธาตุ
๓๑. ราคาสินค้าในตลาดขึ้นฮวบฮาบ
๓๒. ปัจจุบันโคราชเป็นจังหวัดเจริญที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๓๓.นักธุรกิจเหล่านี้ทำยังไงถึงได้ร่ำรวยอย่างนี้
๓๔. นักศึกษาที่เป็นนักกิจกรรมควรจะมีการแบ่งเวลาในการเรียนและการทำกิจกรรมให้เหมาะสมด้วย และควรที่จะมีความขยันในการอ่านหนังสือให้มากกว่านักศึกษาธรรมดาอีกด้วย
๓๕.การเคารพพระรัตนตรัยคือการยึดมั่นในพระธรรม คำสั่งสอน พระพุทธคุณ และพระสังฆคุณ


******************************

2 ความคิดเห็น:

  1. แล้วประโยคที่ควรใช้ถูกต้อง ต้องใช้ว่ายังไงคะ อยากให้เขียนบอกให้ด้วย

    ตอบลบ
  2. มีคำตอบประโยคที่ถูกต้องมั้ยคะ

    ตอบลบ